1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
ขอบคุณภาพจาก : wikipedia
ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติไหนก็อยากมาเห็นความสวยงามของวัดพระแก้วกันทั้งนั้น วัดพระแก้วเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของเราตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และให้เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกราบไหว้พระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถได้ แต่ควรบอกเพื่อนต่างชาติให้แต่งตัวเรียบร้อยด้วย
*******************************************************
2. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
ขอบคุณภาพจาก : bangkoktourist
ถัดจากวัดพระแก้วมาไม่ไกล ก็จะเจอกับวัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความโดดเด่นอย่างหนึ่งก็คือเป็นวัดที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับศิลปะจีน ตามแบบพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนวดแผนไทยตั้งอยู่ด้วย พาเพื่อฝรั่งไปนวดสักครั้ง รับรองติดอกติดใจทุกราย
*******************************************************
3. วัดอรุณ
สถาปัตยกรรมที่สวยงามภายในวัดประกอบด้วย พระปรางค์องค์ใหญ่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ประดับกระเบื้องสี และพระอุโบสถสร้างใหม่ทรงจตุรมุขสูงใหญ่ ถ้ามาช่วงเย็น เมื่อมองจากฝั่งพระนคร จะเห็นดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า หายวับไปด้านหลังพระปรางค์วัดอรุณฯ สาดแสงสีส้มสุดท้ายของวันสะท้อนผืนน้ำเจ้าพระยา เป็นภาพที่ประทับใจเราและชาวต่างชาติไม่รู้ลืม
*******************************************************
4. นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ นำเสนอเรื่องราวด้านต่างๆ แห่งยุครัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ปี 2325 จนถึงปัจจุบัน ผ่านห้องจัดแสดงทั้งหมด 9 ห้อง ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทั้งสื่อจัดแสดง หุ่นจำลอง การนำสื่อผสมเสมือนจริง 4 มิติ สื่อมัลติทัช และมัลติมีเดียแอนิเมชัน
ชั้นบนสุดเป็นสกายวิว สามารถมองเห็นทัศนียภาพของถนนราชดำเนิน และอาคารสถาปัตยกรรมโดยรอบ เช่น ภูเขาทอง ป้อมมหากาฬ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท ฯลฯ ในมุมที่สวยที่สุดอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
*******************************************************
5. พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน
ขอบคุณภาพจาก : bangkok
พิพิธภัณฑ์บ้านเรือนไทยของจิม ทอมป์สัน ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนได้รับฉายาว่า “ราชาผ้าไหมไทย” ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอาคารเรือนไทยได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น การมาเยือนสถานที่แห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งทริปที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้รักและหลงใหลผ้าไหมไทย
*******************************************************
6. บ้านศิลปิน คลองบางหลวง
บ้านไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ริมคลองบางหลวง แห่งนี้ เปิดเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ แสดงงานศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย ภาพพิมพ์ งานแกะสลักและงานจิวเวลรี่ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้โบราณ ของกลุ่มศิลปินหลายแขนง อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่ทำเป็นร้านขายของที่ระลึก มีมุมร้านกาแฟ ให้ได้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบพร้อมชมวิวทิวทัศน์ริมคลอง นอกจากนี้ทุกวันเวลาบ่าย 2 โมง ที่บ้านศิลปินจะมีการแสดงหุ่นละครเล็กฟรีอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก : บ้านศิลปิน คลองบางหลวงartisthousebkk
*******************************************************
7. มิวเซียมสยาม
เรียนรู้พัฒนาการความเป็นไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผ่านชุดนิทรรศการถาวร และนิทรรศการหมุนเวียน โดยนำเสนอด้วยสื่อผสมหลายรูปแบบ ให้เรามีส่วนร่วมและสนุกสนานไปด้วยได้ มาที่นี่จะเข้าใจตัวตนคนไทย รวมถึงประเทศไทยของเราลึกซึ้งขึ้นเยอะเลยค่ะ
*******************************************************
8. เยาวราช
สวรรค์กินดื่มของคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะช่วงเย็น ลากยาวไปจนถึงสี่ทุ่ม บรรยากาศที่เยาวราชจะคึกคักมากเป็นพิเศษ สองฟากฝั่งถนนจะมีแผงอาหารตั้งเรียงราย ให้เลือกไม่น้อยกว่า 10 ร้าน หรือเป็นร้านอาหารจริงจังเลยก็มี ส่วนราคาก็สตาร์ทตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักพัน เลือกอิ่มได้ตามกำลังเงินในกระเป๋า
*******************************************************
9. ตลาดนัดจตุจักร
Credit : worldofbuzz
ขนาดคนไทยเองยังชอบไปเดินช็อปปิ้งเลย แม้อากาศจะร้อน คนจะเยอะ ก็ไม่ถอย นั่นเพราะตลาดนัดจตุจักร สินค้าส่วนมากถูกเหลือเชื่อ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ที่ดูแล้วก็ไม่ไก่กานะจ๊ะ สวยๆ งามๆ เยอะไป ไหนจะงานแฮนด์เมดสไตล์ไทยแลนด์ก็เต็มไปหมด ถ้าเดินๆ อยู่กระหายน้ำทำไง ไม่ต้องห่วง มีร้านรถเข็นขายน้ำเพียบ ชุ่มคอชื่นใจพร้อมเดินต่อ ส่วนฝรั่งคนไหนชอบปลูกต้นไม้ บอกเขามาเดินวันพุธ-พฤหัสค่ะ เพราะสองวันนี้จะเป็นตลาดขายต้นไม้และอุปกรณ์ตกแต่งสวนโดยเฉพาะ
*******************************************************
10. ตลาดวังหลัง
ขอบคุณภาพจาก : Bangkok
นอกจากตลาดจตุจักร ก็มีตลาดวังหลังเนี่ยแหละ ที่น่าพาเพื่อนฝรั่งมาละลายเงินไทย มีสารพันอาหารคาวหวานชวนให้อิ่มอร่อย ตลอดทางเดิน 300 เมตร อีกทั้งยังเป็นแหล่งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง ในราคาถูกแสนถูก การเดินทางแนะนำให้ลองนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าสาธร สะพานตากสิน บรรยากาศชิลล์ ลมโกรกเย็นสบาย
*******************************************************
11. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม
ขอบคุณภาพจาก : thetrippacker
กรุงเทพเรามีตลาดน้ำหลายแห่งด้วยกัน สำหรับตลาดน้ำคลอดลัดมะยม ย่านตลิ่งชัน พุทธมณฑลสาย 1 บอกเลยที่นี่ของกินเพียบ มีทั้งร้านบนบก และแม่ค้าพายเรือมาขาย ไฮไลท์เด็ดสุดต้องยกให้อาหารทะเล กุ้งเผา ปลาเผา หอยเผา หมึกย่าง ปูนึ่ง อิ่มอร่อยแบบกระเป๋าตังค์ไม่ฉีก นอกจากนั้นยังมี อาหารคาว หวาน ขนมโบราณ เครื่องดื่มเย็นๆ ของฝาก ของใช้ เสื้อผ้า เลือกซื้อกันตาลาย และก่อนกลับอย่าลืมมาล่องเรือชมวิถีชีวิตริมสองฝั่งคลองด้วยนะ สโลไลฟ์ได้อีก
*******************************************************
12. สยามนิรมิต
สยามนิรมิต ตั้งอยู่เยื้องศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่จัดแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมไทยรูปแบบใหม่ ระดับมาตรฐานโลก นำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต และคติความเชื่อของชนชาวสยาม ผ่านการนำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งฉาก ระบบแสง สี เสียง และภาพ
เปิดแสดงวันละ 1 รอบ เวลา 20.00 น. ค่าบัตรเข้าชม 1,500 บาท
*******************************************************
13. เอเชียทีค เดอะ รีเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique)
เอเชียทีค เดอะ รีเวอร์ฟร้อนท์ ย่านเจริญกรุง แลนด์มาร์คอีกแห่งของคนกรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน เดินทางสะดวก แถมยังชิลได้ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดอีกด้วย แหล่งพบปะสังสรรค์ ช้อปปิ้ง กิน เที่ยว ถ่ายภาพสวยๆ ในบรรยากาศสุดคลาสสิคของความเป็นโกดังเก่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถมสินค้าไทยๆ ก็เยอะมาก ให้ชาวต่างชาติเลือกซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้าน
*******************************************************
14. เกาะเกร็ด
ออกนอกกรุงเทพมานิดนึง สัมผัสวิถีชีวิตชาวมอญบนเกาะเกร็ด ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยึดอาชีพหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผามายาวนาน จึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อหันมองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านเครื่องปั้นดินเผาเล็กๆ น่ารัก ราคาถูก ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้เรายังสามารถเช่าจักรยานปั่นรอบเกาะ แวะชิมขนมไทย ทอดมันหน่อกะลา ข้าวแช่ กะละแม และคะนอนจิม อาหารชาวมอญโบราญ แล้วไปปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกินลมชมทัศนียภาพ
*******************************************************
15. ถนนข้าวสาร
ย่านนี้คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน แต่สองช่วงเวลาบรรยากาศต่างกันสิ้นเชิง เพราะนอกจากร้านเสื้อผ้า สตรีทฟู้ด ร้านนวด ร้านขายของที่ระลึกแล้ว ยามค่ำคืนยังครึกครื้นกว่าเดิมด้วยแสงสีเสียง ผับ บาร์ ร้านนั่งชิลล์ เรียกว่ามาเที่ยวที่เดียวคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม อีกอย่าง ถนนข้าวสารมีห้องเช่าและโรงแรมให้พักด้วย ในราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน เพื่อนฝรั่งคนไหนกำลังหาที่หลับนอน ลองพาเขามาเดินเลือกดูนะ
*******************************************************
16. ตลาดไนท์มาร์เก็ต
ตลาดไนท์มาร์เก็ต หรือ ตลาดนัดกลางคืน มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงในกรุงเทพ ไม่ว่าจะในเมือง หรือนอกเมือง สินค้าที่วางขายก็จะคล้ายๆ กัน อาจมีจุดเด่นแตกต่างกันไปบ้าง ทั้งของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านอาหาร บางที่มีสินค้าฮิปๆ สไตล์วินเทจ อย่าง ตลาดรถไฟรัชดา, The Walk เกษตร-นวมินทร์ ส่วนใครที่ชอบแฮงค์เอาท์ พร้อมฟังดนตรีสด คงต้องไป เจเจกรีน นอกนั้นก็มี ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีหลายโซนให้เดิน อาหาร-เครื่องดื่มแน่น เสื้อผ้าเพียบ อีกที่หนึ่งคือ ตลาดนัดจตุจักร ช้อปยันเช้า ตั้งแต่สามทุ่มถึงตีหนึ่ง
https://travel.mthai.com/blog/182275.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น